ประวัติ บุญเพ็งหีบเหล็ก

หากพูดถึง ประวัติ บุญเพ็งหีบเหล็ก หลายคนอาจจะนึกถึงชื่อของโจรผู้โด่งดังในอดีต ที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ไทยว่าเป็นหนึ่งในนักโทษที่มีวิธีการฆาตกรรมอำมหิตที่สุดคนหนึ่ง บุญเพ็งเป็นที่จดจำในฐานะอาชญากรที่ใช้ “หีบเหล็ก” เป็นเครื่องมือในการซ่อนศพเหยื่อ โดยเฉพาะในช่วงยุคปลายรัชกาลที่ 6 ถึงต้นรัชกาลที่ 7 ที่เหตุการณ์นี้กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนขวัญไปทั่วทั้งประเทศ

ประวัติ เอช เอช โฮล์มส์ หมอปีศาจ ฆาตกรต่อเนื่องในชุดกาวน์

ประวัติ บุญเพ็งหีบเหล็ก จุดเริ่มต้นของบุญเพ็ง และที่มาของชื่อ “หีบเหล็ก”

บุญเพ็ง มีชื่อจริงว่า บุญเพ็ง พรหมา เป็นชายชาวอีสานที่อพยพเข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ โดยในช่วงแรกเขาทำงานรับจ้างทั่วไป ก่อนจะเริ่มผันตัวเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรม ซึ่งเหตุผลที่เขาได้รับฉายาว่า “บุญเพ็งหีบเหล็ก” นั้น มาจากวิธีการฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม โดยเขาจะลวงเหยื่อมายังที่พัก ก่อนจะฆ่าและนำศพใส่ในหีบเหล็กเพื่ออำพรางกลิ่นและหลักฐาน จากนั้นจึงลำเลียงหีบดังกล่าวไปทิ้งในที่ต่าง ๆ

วิธีการดังกล่าวนี้นับว่าแปลกและผิดมนุษย์มนาในสมัยนั้น จึงถูกสื่อมวลชนขนานนามให้เขาว่า “บุญเพ็งหีบเหล็ก” และกลายเป็นตำนานในหมู่คดีฆาตกรรมของประเทศไทย

คดีสะเทือนขวัญ และบทสรุปของบุญเพ็ง

คดีของบุญเพ็งถูกเปิดโปงในช่วงปี พ.ศ. 2470 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับกลิ่นเหม็นเน่าอย่างผิดปกติจากหีบเหล็กที่ถูกทิ้งไว้บริเวณริมทางรถไฟ หลังจากตรวจสอบก็พบว่าภายในมีศพของหญิงสาวคนหนึ่งถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม คดีนี้สร้างความตกใจให้กับสังคมในวงกว้าง และตามมาด้วยการสืบสวนที่ใช้เวลาหลายเดือนจนสามารถจับตัวบุญเพ็งได้ในที่สุด

บุญเพ็งรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆ่าหลายรายด้วยวิธีการคล้ายกัน และศาลได้ตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิต คดีนี้นับว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่จุดกระแสให้สังคมไทยเริ่มตื่นตัวเกี่ยวกับความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น และยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และสารคดีในเวลาต่อมา

ประวัติ บุญเพ็งหีบเหล็ก

บทสรุป

ประวัติ บุญเพ็งหีบเหล็ก ไม่ใช่แค่เรื่องราวของอาชญากรคนหนึ่ง แต่ยังสะท้อนถึงบริบทสังคมไทยในอดีต ที่ยังไม่มีเทคโนโลยีทันสมัยในการตรวจสอบหลักฐาน อาชญากรรมของบุญเพ็งจึงสามารถดำเนินไปได้หลายครั้งโดยไม่ถูกจับได้ทันที การบันทึกเรื่องราวของเขาจึงเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่มีค่า ทั้งในเชิงกฎหมาย สังคม และจิตวิทยาอาชญากร


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball