ประวัติ มาเตอุส คุนญ่า กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในวงการฟุตบอลยุโรปและโดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก หลังการย้ายทีมสุดฮือฮาสู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงซัมเมอร์ 2025 คุนญ่าไม่ใช่แค่ “นักเตะบราซิลในพรีเมียร์ลีก” ทั่วไป แต่เป็นผู้เล่นที่พัฒนาฝีเท้ามาอย่างต่อเนื่องจากยุโรปสู่ระดับสูงสุดของวงการฟุตบอล
ด้วยสไตล์การเล่นที่เต็มไปด้วยพลัง ความเร็ว และการยิงประตูที่เฉียบคม เขาได้รับความคาดหวังว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมของปีศาจแดงในฤดูกาลใหม่ และบทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกมิติของเส้นทางอาชีพของเขา
ประวัติ วาร์เรน ซายาร์-เอเมอรี มิดฟิลด์อัจฉริยะ ดาวรุ่งฝรั่งเศส 2025
ประวัติ มาเตอุส คุนญ่า จากบราซิลสู่เวทียุโรป
มาเตอุส ซานโตส คาร์เนโร ดา คุนญ่า (Matheus Santos Carneiro da Cunha) เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 1999 ที่เมือง João Pessoa ประเทศบราซิล เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับการเล่นฟุตซอล ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบเยาวชนของสโมสรในประเทศบ้านเกิด
เมื่ออายุเพียง 18 ปี เขาย้ายไปสู่สโมสร FC Sion ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของเขาในฟุตบอลยุโรป และที่นั่นเขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าทึ่งจนทำให้ทีมในบุนเดสลีกาอย่าง RB Leipzig และต่อมาคือ Hertha BSC สนใจดึงตัวไปร่วมทีม
การเล่นในเยอรมนีช่วยหล่อหลอมให้เขาเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องมากขึ้น จากนั้นเขาย้ายไป Atlético Madrid ในลาลีกา สเปน ซึ่งเป็นอีกช่วงเวลาที่สำคัญใน ชีวิตการค้าแข้งของ มาเตอุส คุนญ่า ในการปรับตัวกับสไตล์บอลที่เน้นแท็คติกและการเล่นเป็นระบบ
แจ้งเกิดในพรีเมียร์ลีกกับวูล์ฟส์
ฤดูกาล 2023/24 คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อคุนญ่าย้ายมาร่วมทีม Wolverhampton Wanderers เขาใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษ และโชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงในฤดูกาล 2024/25 ด้วยการยิงไป 15 ประตูจาก 33 นัดในพรีเมียร์ลีก และทำอีก 6 แอสซิสต์ กลายเป็นดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมทันที
ฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นนี้ทำให้ชื่อของเขาเริ่มถูกพูดถึงในฐานะ “กองหน้าดาวรุ่งพรีเมียร์ลีก” และตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรใหญ่ ซึ่งสุดท้ายคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คว้าตัวเขาไปในซัมเมอร์ 2025
การย้ายทีมสู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2025
หนึ่งในข่าวที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์ปี 2025 คือการที่ มาเตอุส คุนญ่า ย้ายมาแมนยู ด้วยค่าตัวราว 62.5 ล้านปอนด์ โดยเซ็นสัญญายาว 5 ปี พร้อมออปชันขยายอีก 1 ปี
คุนญ่าเปิดใจว่า การได้สวมเสื้อของแมนยูคือ “ความฝันในวัยเด็ก” และเขาพร้อมที่จะพาทีมกลับสู่จุดสูงสุดของพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ในขณะที่ปีศาจแดงเองก็ต้องการผู้เล่นที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ในเกมรุก ซึ่งคุนญ่าตอบโจทย์อย่างมาก
การย้ายครั้งนี้ยังสอดรับกับแผนการทำทีมของ รูเบน อามอริม ผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่เน้นเกมบุกเร็ว การเคลื่อนไหวอิสระ และการกดดันสูง ซึ่งสไตล์ของคุนญ่าก็เหมาะสมกับระบบนี้อย่างยิ่ง
ผลงานระดับทีมชาติบราซิล
นอกจากความสำเร็จในระดับสโมสรแล้ว มาเตอุส คุนญ่า ยังเต็มไปด้วยเกียรติยศในระดับทีมชาติ เขาเป็นหนึ่งในขุนพลสำคัญที่ช่วยให้บราซิลคว้าเหรียญทองในการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก โตเกียว 2020 และหลังจากนั้นก็ได้รับโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่ต่อเนื่อง
ในปี 2025 เขายิงประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้สำเร็จในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่พบกับอาร์เจนตินา ซึ่งตอกย้ำว่าเขาไม่ใช่แค่ดาวรุ่งธรรมดา แต่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวหลักของทัพแซมบ้าในอนาคต
จุดแข็งและสไตล์การเล่นของคุนญ่า
มาเตอุส คุนญ่า เป็นนักเตะที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในเกมรุก ไม่ว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้า, กองหน้าตัวต่ำ หรือแม้แต่ปีกซ้าย ด้วยความสามารถในการเลี้ยงบอล, การจบสกอร์ และการสร้างพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีม เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่มี “ความครบเครื่อง” มากที่สุดในรุ่นเดียวกัน
เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่มีทั้งเทคนิคแบบนักเตะบราซิล และความแข็งแกร่งแบบนักเตะยุโรป ซึ่งทำให้เขากลายเป็นจิ๊กซอว์ที่สมบูรณ์สำหรับแนวรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2025/26
อนาคตในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด
หลายฝ่ายเชื่อว่าการย้ายทีมในปี 2025 จะเป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ของ มาเตอุส คุนญ่า ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เขาไม่ได้มาเพื่อเป็นแค่ตัวเลือกสำรอง แต่ถูกวางให้เป็น “ศูนย์กลาง” ของเกมรุกยุคใหม่ของแมนยู ร่วมกับนักเตะพลังหนุ่มคนอื่น ๆ อย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และโคบี้ เมย์นู
หากคุนญ่ารักษาฟอร์มการเล่นและหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บได้ เขามีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในดาวยิงระดับโลก และอาจกลายเป็นตำนานของ “ปีศาจแดง” ได้ในอนาคต
บทสรุป
มาเตอุส คุนญ่า คือเรื่องราวของนักเตะบราซิลที่เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ และก้าวขึ้นสู่เวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟุตบอลโลก การย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนสโมสร แต่เป็นการเปลี่ยนบทบาทในวงการฟุตบอลยุโรปอย่างแท้จริง เขาคือหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลพรีเมียร์ลีกควรจับตามองอย่างยิ่ง
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia
