การ์กอยล์ คืออะไร

จากกระแสครูกายแก้วที่เป็นข่าวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับการ์กอยล์ที่อสูรหรือปีศาจจากความเชื่อของชาวฝรั่งเศส และวันนี้เรามาหาคำตอบกันว่า การ์กอยล์ คืออะไร โดยอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ปนาลี มาจากคำว่า “Gargouille” (กากุยล์) ในภาษาฝรั่งเศสโบราณ แปลว่า “ปาก” การที่เสียงของคำว่า Gargoyle คล้ายเสียงกลั้วน้ำในปาก และคล้ายคำว่า “Gargle” (บ้วนปาก) ในภาษาอังกฤษ คือสิ่งบอกใบ้ถึงความเป็นมาแห่งนามของ การ์กอยล์ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดการประดับรูปปั้นเหล่านี้ รูปร่างของการ์กอยล์นั้นมีทั้งมังกร อสุรกาย ปีศาจ อมนุษย์ ว่าง่าย ๆ คือ สัตว์ประหลาดหน้าตาดุร้ายทั้งหลาย แต่โด่งดังอย่างมากคือการ์กอยล์แห่ง มหาวิหารนอเทรอดาม กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีการประดับตกแต่งปีศาจเหล่านี้เต็มไปหมด และมีส่วนหนึ่งที่ดูคล้ายมนุษย์ค้างคาวด้วย

แพะรับบาป คืออะไร

การ์กอยล์ คืออะไร และต้นกำเนิด

  • การ์กอยล์

การ์กอยล์ (Gargoyle) เป็นสัตว์ประหลาดหรือสิ่งมีชีวิตในตำนานที่มักมีรูปร่างน่ากลัว มักปรากฏในสถาปัตยกรรมของคริสต์ศาสนสถานในยุโรป โดยเฉพาะในสถาปัตยกรรมแบบกอธิค การ์กอยล์มักถูกสร้างขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นรางน้ำหรือท่อระบายน้ำบนหลังคาของอาคาร ทำหน้าที่ระบายน้ำฝนออกจากตัวอาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้าทำลายอาคาร การ์กอยล์มักถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่แปลกประหลาดและน่ากลัว เพื่อให้ผู้คนที่พบเห็นเกิดความกลัวและเกรงกลัว เชื่อกันว่าการ์กอยล์จะช่วยปกป้องอาคารจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ

  • ต้นกำเนิด

การ์กอยล์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส คำว่า “Gargoyle” มาจากภาษาฝรั่งเศสคำว่า “Gargouille” ซึ่งหมายถึง “ลำคอ” เชื่อกันว่าการ์กอยล์มีต้นกำเนิดมาจากสัตว์ประหลาดที่ปรากฏในตำนานของชาวกรีกและโรมัน สัตว์ประหลาดเหล่านี้มักมีรูปร่างน่ากลัวและดุร้าย เชื่อกันว่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้จะคอยทำร้ายผู้คนที่เดินทางผ่านป่าหรือภูเขา ชาวคริสต์จึงสร้างการ์กอยล์ขึ้นมาเพื่อปกป้องผู้คนจากสัตว์ประหลาดเหล่านี้

การ์กอยล์ คืออะไร

ตำนานการ์กอยล์อสุรกายแห่งรูออง

ตำนานกำเนิด การ์กอยล์ ของชาวยุโรปเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 7 ณ หมู่บ้านรูออง (Rouen) ตอนเหนือของฝรั่งเศส มหันตภัยที่กำลังคุกคามหมู่บ้านแห่งนี้อยู่คือ “มังกร” นามว่า ลา กากุยล์ (La Gargouille) เป็นมังกรไฟคอยาว มีปีก ตามแบบฉบับมังกรตะวันตก ลา กากุยล์ สามารถบินเหนือหมู่บ้านแล้วพ่นไฟแผดเผาเรือกสวนไร่นากับบ้านเรือน รวมทั้งอาละวาดทำร้ายหรือกินชาวบ้านกับฝูงปศุสัตว์ได้ด้วย มันยื่นคำขาดให้ชาวบ้านรูอองส่งหญิงสาวของหมู่บ้านเป็นเหยื่อให้มันประจำทุกปี ชาวบ้านก็ยอมทำตามอย่างจำใจ

ในที่สุด หมู่บ้านรูอองก็มี “ฮีโร่” มาช่วย เป็นนักบวชคริสต์ นาม เซนต์โรมานุส (St. Romanus) หรือนักบุญโรมานุส ผู้มีเพียงไม้กางเขนและน้ำมันศักดิ์สิทธิ์สำหรับปราบ ลา การ์กุยล์ ท้ายที่สุดมังกรร้ายก็สยบต่อนักบวชผู้นี้ ท่านส่งมันให้ชาวบ้านจัดการเอง ชาวรูอองผู้เคียดแค้นลงมือสังหารเจ้ามังกรก่อนนำไปเผาไฟ แต่เพลิงไม่อาจทำลายมังการไฟให้สิ้นซากได้ ส่วนหัวและคอของมังกรร้ายไม่ยอมไหม้ไฟ

เซนต์โรมานุสจึงให้ชาวบ้านนำหัวมังกรไปประดับกำแพงวิหาร ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ชาวบ้านสร้างเพื่ออุทิศถวายแด่วีรกรรมของท่านเอง กลายเป็นธรรมเนียมการประดับรูปปั้นปีศาจ “การ์กอยล์” ตามอาคารโบสถ์หรือศาสนสถานในคริสต์ศาสนานับแต่นั้น ความเชื่อที่คู่มากับตำนานนี้คือ หัวมังกรมีอานุภาพขับไล่ความชั่วร้ายทั้งหลายได้ แต่บางตำนานเล่าว่า ปีศาจตัวดังกล่าวไม่ใช่มังกร แต่เป็นอมนุษย์รูปร่างคล้าย “ค้างคาว”

สรุป การ์กอยล์เป็นสัญลักษณ์ของความน่ากลัวและความน่าเกรงขาม มักถูกใช้เพื่อปกป้องอาคารจากสิ่งชั่วร้ายต่างๆ การ์กอยล์เป็นสัญลักษณ์ที่พบได้บ่อยในสถาปัตยกรรมของคริสต์ศาสนสถานในยุโรป โดยเฉพาะในสถาปัตยกรรมแบบกอธิค การ์กอยล์เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเชื่อของชาวคริสต์ที่ว่าพระเจ้าจะปกป้องผู้คนจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

 

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball