ดิเอโก้ มาราโดน่า

ดิเอโก้ มาราโดน่า ( Diego Armando Maradona) ตำนานหมายเลข 10 พาอาเจนติน่าเป็นแชมป์โลกในปี 1986 เสียชีวิตในวัย 60 ปีด้วยโรคหัวใจล้มเหลว พวกเรารู้จักเค้าในนาม เทพเจ้า และเค้าเคยพูดออกมาว่า ‘’ในชีวิตของเขานั้นไม่มีคำว่าสีเทา เพราะไม่ดำก็ขาวไปเลย’’ เราจึงจะพาไปดูวีรกรรมสุดระห่ำภายนอกสนามของเขากัน

ดิเอโก้ มาราโดน่า

1.ศึกฟุตบอลโลกในปี 1994 ดิเอโก้ มาราโดน่า ในวัย 33 กลับมาติดทีมชาติอีกครั้งนึง โดยในเกมที่เจอกับกรีซและเกมนั้น อาเจนติน่า ชนะ กรีซ 4-0 แต่หลังจบเกมมีการสุ่มตรวจสารกระตุ้น ซึ่ง มาราโดน่า ก็เป็น 1 ที่ถูกเรียกไปตรวจ ปรากฎว่าเจอสาร ทาง มาราโดน่าก็ยืนยันว่าเค้าไม่ได้ใช้สารเสพติด แต่ก่อนเกมเค้าได้ดืมเครื่องดืมชูกำลังชื่อ RIP ซึ่งเครื่องดื่มที่ว่า มันมีสารต้องห้ามอยู่ผสมอยู่ด้วยซึ่งทาง มาราโดน่า ก็รู้เรื่องอะไรด้วย แต่ทว่าทาง FIFA ก็ตัดสิทธิขับดิเอโก้ มาราโดน่า ออกจากฟุตบอลโลกปี 1994 และหลังจากนั้นเค้าก็ไม่เคยกลับมาติดทีมชาติอีกเลย

ดิเอโก้ มาราโดน่า

2.หลังจากถูกตัดสิทธิ มาราโดน่า ได้กลับไปที่บ้านเกิดที่อาเจนติน่า และเก็บตัวอย่างเงียบๆ แต่ทว่าด้วยก่อนหน้านี้ มาราโดน่า เป็นข่าวโด่งดังในเรื่องการใช้สารและถูกขับออกจากฟุตบอลโลก นักข่าวจึงแทบพลิกแผ่นดินหาตัว มาราโดน่า จนเจอ แต่ตอนที่เจอตัวเข้านั้น มาราโดน่า อยู่ในอาการมึนเมา และมันก็เกิดเหตุการที่ มาราโดน่า ตะโกนใส่นักข่าวว่า       ”ออกไปโว่ยถ้าตามอีกจะยิงให้หมดเลย ” พร้อมชูปืนไรเฟิลของเค้า และทำการยิงปืนไรเฟิลของเค้าเข้าไปที่นักข่าวประมาน 4-5 นัด โชคดีว่าปืนที่เขายิงเป็นปืนอัดลม แต่คดีความที่ มาราโดน่าโดนคือ พยามทำร้ายร่างกาย จึงทำให้โดนจำคุก 2 ปี 10 เดือน

ดิเอโก้ มาราโดน่า

3.หลังจากย้ายมาอยู่กับบาเซโลน่า มีปัญหาในการใช้ชีวิตนอกสนาม ปาตี้หนักมาก และเริ่มใช้ยา จนเละเทะ แต่ทางสโมสรบาเซโลน่าก็ทำการปิดข่าวโดยบอกว่า มาราโดน่า ยังอยู่ดีกำลังเรียกความฟิตและกำลังจะกลับมาลงสนามและโดยคนที่พูดคือ Cesar Luis Menotti ผู้จัดการทีมตอนนั้น กับ Josep Lluis Nunez ประทานทีมในตอนนั้น  ทั้งสองคนพยายามทำการปกป้องและปกปิดจากสื่อ จนกระทั้งความจริงถูกเปิดเผยว่า บาเซโลน่าเคยเลื่อนเวลาการซ้อมไป 3 ชั่วโมงเพราะ มาราโดน่าเมาค้างและนอนน้อย โดยผู้ที่มาเปิดเผยกึคือ Cesar Luis Men

Diego Armando Maradona

4.นัดที่ บาเซโลน่าเจอกับ แอธเลติก บิลเบาในปี 1984 ในถ้วยโคปาเกมนั้น แอธเลติก บิลเบาชนะ 1-0 หลังจบเกม Miguel sola ถกเถียงกับ มาราโดน่า อย่างหนักจนกระทั้ง มาราโดน่าเอาหัวโขกไปที่ sola จนล้มและมีนักเตะบิลเบาจะวิ่งเข้ามาก็โดน มาราโดน่า ศอกเข้าที่หน้า และตะลุมบอลกันอย่างหนัก แต่ภาพที่จดจำได้คือภาพที่ มาราโดน่า วิ่งไปหานักเตะของบิลเบาและเข่ารอยใส่จนล้มทั้งยืน แต่ทว่าประเด็นสำคัญคือที่ม้านั่งคนดูมีกษัตริย์ของประเทศสเปนในตอนนั้น Juan Carlos มานั่งรับชมด้วยทำให้ภาพลักษณ์ของ มาราโดน่า และ บาเซโลน่าตกต่ำอย่างสุดขีดจนสุดท้ายต้องย้ายออกจากบาเซโลน่า

Diego Armando Maradona

5.มาราโดน่า ถือว่าเป็นคนที่เกลียด อเมริกามากโดยเขาคิดว่าอเมริกาเข้ามาหาผลประโยชน์จากประเทศแถบอเมริกาใต้ ครั้งนึง มาราโดน่าเคยออกรายการในประเทศ เวเนซุเอลา และพูดว่า
‘’ ผมเกลียดทุกสิ่งทุกอย่างที่มาจากอเมริกา ผมเกลียดประเทศนี้จากก้นบึ้งลึกสุดของหัวใจ’’
ในช่วงเวลานึงมีประธานาธิบดี George W.Bush มายืนที่ประเทศอาเจนติน่าซึ่งก็จะมีกลุ่มไปประท้วงซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีมาราโดน่าร่วมด้วย โดยเข้าชูเสื้อที่มีคำว่า STOP BUSH และพูดว่า

‘’ ผมเป็นคนอาร์เจนติน่าที่ภูมิใจมากกับการออกมาไลไอ้มนุษย์ขยะอย่าง จอร์จ บุช อย่าให้มันได้มาเหยียบประเทศของเราอีก “

Diego Armando Maradona

6.ช่วงที่ มาราโดน่า ย้ายมาอยู่กับนาโปลี ได้ไปสนิทกับแก๊งมาเฟียชื่อ Giuliano clan ซึ่งก็มีทั้งยาเสพติด อาชญากรรม และที่โปรดปรานของ มาราโดน่าก็คือ โคเคน แล้วแก๊งมาเฟียก็ส่ง โคเคนให้กับ มาราโดน่า แบบไม่อั้น และตลอดเวลา จนเคยมีคนพูดว่า มาราโดน่าทำได้ทุกอย่างเพื่อโคเคน แม้จะทำให้นาโปลีไม่ได้แชมป์เพื่อแลกกับโคเคน

Diego Armando Maradona

7.มาราโดน่าเป็นหนึ่งในคนสนิทของ Pablo Escobar ราชายาเสพติด โดยตอนนั้น Pablo โดนจับและติดคุก แต่ทว่า Pablo ทำการสร้างคุกขึ้นมาโดยภายในคุกมีทุกอย่าง และ Pablo ได้ทำการเชิญ มาราโดน่า เข้ามาพักในคุกของเขาด้วย มาราโดน่า บอกว่าภายในคุกมีทุกอย่าง เหล้ายา และสาวจำนวนมาก จนเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง และหลังจากตื่นนอน Pablo ได้มอบเงินให้เขาก้อนหนึ่งและร่ำลากันไป

นี่ก็เป็นบางส่วนของชีวิตที่โลดโผนและฉูดฉาดของ ดิเอโก้ มาราโดน่า ผู้ที่ไปที่ไหนก็จะดึงดูดคนที่มีอิธิพลในช่วงนั้นให้มาสนิทกับเขาเสมอ ถ้าถามว่า มาราโดน่า เก่งแค่ไหน ต้องบอกว่า การได้เห็น มาราโดน่าเล่นฟุตบอลถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุดแล้ว


สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

อ้างอิง : คลิกที่นี่

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball