ถั่วแมคคาเดเมีย (Macadamia)

ถั่วแมคคาเดเมีย ถั่วรสชาติหวานมัน ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่โลกด้วยรสชาติที่โดดเด่นและมีคุณค่าทางอาหารมากมาย ถั่วแมคคาเดเมียนั้นเหมาะกับเอามาทานเล่นเป็นของว่าง หรือสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย เช่น สอดไส้ช็อกโกแลต ไอศกรีมรสถั่วแมคคาเดเมีย เป็นต้น ซึ่งด้วยรถชาติที่โดดเด่นนี้หากคุณยังไม่เคยลอง คุณลองไปหามาทานสักครั้งรับรองได้เลยว่าคุณจะหลงรักและติดใจในรสชาติของถั่วแมคคาเดเมียนี้แน่นอน

ถั่วชนิดนี้ จัดเป็นพืชเคี้ยวมัน หรือ nut มีชื่อวิทยาศาสตร์ Macadamia inte grifolia
Maiden and Betche อยู่ในวงศ์ Proteaceae มล.จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ทรงให้เขียนเป็นภาษาไทยว่า มะคาเดเมีย และคนไทยชอบเรียกชื่อสั้นๆ ว่า มะคา

ถั่วแมคคาเดเมียนี้จะให้ผลผลิตเมื่อมีอายุในช่วง 7-10 ปี ซึ่งการปลูกถั่วแมคคาเดเมียจะต้องหมั่นดูแลใส่ปุ๋ยให้พอเหมาะ และปลูกในที่ที่มีฝนตกชุกอีกด้วย พืชชนิดนี้เป็นพืชเศรษฐกิจและมีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยดัน ดังนี้

ถั่วแมคคาเดเมียมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลียมากถึง 7 สายพันธุ์ด้วยกัน ที่นิวคาเลโดเนีย 1 สายพันธุ์ และที่เมืองสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซียอีก 1 สายพันธุ์ สายสายพีนธุ์ที่คุณค่าและนิยมในเชิงการค้ามากที่สุดมีอยู่ 2 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ Macadamia integrifolia และ Macadamia tetraphylla ซึ่งมีถิ่นกำเนิดใน รัฐนิวเซาท์เวลส์ และ รัฐควีนส์แลนด์ ของประเทศออสเตรเลีย

ถั่วแมคคาเดเมีย ราชาแห่งถั่ว ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร

ถั่วแมคคาเดเมีย (Macadamia) นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งถั่ว เนื่องจากเป็นถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ และโดยเฉพาะ ไขมันดี

ในถั่วแมคคาเดเมีย 1 ออนซ์ จะให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้

  • พลังงาน 204 แคลอรี่
  • ไขมัน 23 กรัม
  • โปรตีน 2 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต  4 กรัม
  • น้ำตาล 1 กรัม
  • ใยอาหาร 3 กรัม
  • แมงกานีส 58% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน
  • ไทอามีน (Thiamine) 22% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน
  • ทองแดง 11% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน
  • แมกนีเซียม 9% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน
  • ธาตุเหล็ก 6% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน
  • วิตามินบี 6 5% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน

แมคคาเดเมียนั้นมีไขมันสูงก็จริง แต่ไขมันกว่า 79% ที่พบในแมคคาเดเมียนั้นล้วนแล้วแต่ก็เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fats) หรือที่เรารู้จักกันว่าเป็น ‘ไขมันดี’ (HDL) ไขมันเหล่านี้เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ เนื่องจากสามารถช่วยลด ‘ไขมันไม่ดี’ (LDL) ที่อยู่ในเลือดได้

สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

อ้างอิง : คลิกที่นี่

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball