ทุ่งลาวามอส

วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ ทุ่งลาวา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ก่อตัวขึ้นเมื่อแมกมาหรือลาวาปะทุออกมาจากภูเขาไฟและไหลลงมาเหนือพื้นดิน ทำให้พื้นที่นั้นมีลักษณะเรียบและเป็นเส้น ๆ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ลาวาเคยไหลผ่านแต่ทุกท่านรู้ไหมว่า บริเวณพื้นนั้นไม่ได้แห้งกรังอย่างที่คิด เพราะก็มีพืชที่สามารถเติบโตได้เหมือนกันนะ ซึ่งพืชเหล่านี้เกิดขึ้นมาปกคลุมทุ่งลาวา จนสถานที่แห่งนี้กลายเป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่ถูกเรียกว่า ทุ่งลาวามอส ดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้อยู่ในประเทศไอซ์แลน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของไอซ์แลนด์ ซึ่งพืชเหล่านี้มันคืออะไรกันแน่วันนี้เราจะพาทุกท่านมารับชมกับความสวยงามของมันด้วยกัน

เมืองโบราณศรีเทพ ประวัติ เมืองมรดกโลกแห่งใหม่ แห่งที่ 7 ของไทย

ทุ่งลาวามอส สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งไอซ์แลนด์

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของไอซ์แลนด์คือ “ทุ่งลาวา” (Lava Field) หรือพื้นที่ที่ก่อตัวขึ้นเมื่อหินหลอมเหลวหรือแมกมาปะทุออกมาจากภูเขาไฟและไหลลงมาเหนือพื้นดิน ทุ่งลาวาอาจมีลักษณะเรียบและเหมือนเป็นเส้น ๆ หรือหยาบและเป็นบล็อก ๆ ประเภทของทุ่งลาวาที่ก่อตัวนั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของแมกมาและอัตราการปะทุ และไอซ์แลนด์เป็นที่ตั้งของทุ่งลาวาหลายแห่ง โดยเปิดให้ท่องเที่ยวได้ประมาณ 13 แห่ง ส่วนที่เหลือนั้นยากต่อการเข้าถึง แต่ละแห่งก็มีขนาดแตกต่างกันออกไป ทุ่งลาวาที่โด่งดังที่สุดของไอซืแลนด์คือ ทุ่งลาวาเอลธรูน (Eldhraun) ซึ่งก่อตัวขึ้นระหว่างภูเขาไฟปะทุครั้งใหญ่ช่วงปี 1700 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 565 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในทุ่งลาวาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทั้งนี้ แม้จะเห็นว่าทุ่งลาวาเกิดจากลาวาของภูเขาไฟ หลายคนอาจจะคิดว่าพื้นที่เหล่านี้น่าจะแห้งกรัง ไร้ซึ่งชีวิต แต่ความมหัศจรรยืของธรรมชาติก็อยู่ตรงนี้เอง เพราะทุ่งลาวาหลายแห่ง มีพืชตระกูล “มอสส์” (Moss) เกิดขึ้นมาปกคลุม กลายเป็นความสวยงามของสิ่งที่เราเรียกว่า “ลาวามอสส์” (Lava Moss) โดยมอสส์ที่เติบโตในทุ่งลาวานี้มีความเปราะบางอย่างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนต้องระมัดระวัง การปฏิบัติตามคำเตือนหรือคำแนะนำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหาย เพราะหากใครเผลอเดินไปเยียบ ลงไปนั่ง ลงไปนอน ทับลาวามอสส์เหล่านี้ มอสส์จะได้รับความเสียหาย ซึ่งต้องใช้เวลาหลายสิบหรือหลายร้อยปีในการฟื้นตัว

ทุ่งลาวามอส

มอสส์ที่โตในทุ่งลาวานั้นคือมอสส์ไอซ์แลนด์” (Cetraria islandica)

เป็นไลเคนชนิดหนึ่งที่พบในหลายพื้นที่ของโลก แต่พบมากเป็นพิเศษในไอซ์แลนด์ มอสส์ไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อในเรื่องอัตราการเติบโตที่ช้า และอาจต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่ามอสส์เพียงแค่แผ่นเดียวจะเติบโต ที่ผ่านมา เคยเกิดกรณีนักท่องเที่ยวสร้างความเสียหายต่อลาวามอสส์หลายครั้ง และแม้แต่คนมีชื่อเสียง ก็อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้

กรณีที่โด่งดังที่สุดคือศิลปินระดับโลก จัสติน บีเบอร์ ที่มาถ่ายทำส่วนหนึ่งของมิวสิกวิดีโอเพลง “I’ll Show You” ที่ทุ่งลาวาเอลธรูน โดยในการถ่ายทำได้มีผู้คนจำนวนมากเต้นรำและเหยียบย่ำมอสส์ลาวา เป็นเหตุให้นักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมออกมาวิพากษ์วิจารณ์มิวสิกวิดีโอนี้อย่างหนัก โดยเว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ระบุว่า ลาวามอสส์เป็นสิ่งที่ทำให้ภูมิประเทศของไอซ์แลนด์มีความสวยงามแปลกตา แต่มอสส์ไอซ์แลนด์นั้นบอบบางมากและใช้เวลาประมาณร้อยปีจึงจะเติบโต

“หากคุณวางแผนที่จะเดินทางไปที่เอลธรูน โปรดเคารพมอสส์ด้วย อย่าสัมผัสหรือเหยียบมัน หากมอสส์เสียหาย จะใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะหาย” Iceland Travel ระบุ นอกจากลาวามอสส์แล้ว ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกหลายชนิดที่อาจพบในทุ่งลาวา เช่น ต้นเบิร์ชลาวา สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก นกพัฟฟิน เป็นต้น

สรุป ทุ่งลาวามอส เป็นไลเคนชนิดหนึ่งที่พบในหลายพื้นที่ของโลก แต่พบมากเป็นพิเศษในไอซ์แลนด์ มอสส์ไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อในเรื่องอัตราการเติบโตที่ช้า และอาจต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่ามอสส์เพียงแค่แผ่นเดียว โดยมอสส์ที่เติบโตในทุ่งลาวานี้มีความเปราะบางอย่างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนต้องระมัดระวัง การปฏิบัติตามคำเตือนหรือคำแนะนำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหาย


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball