ประวัติ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร
จิรวัฒน์ สอนวิเชียร นักฟุตซอลทีมชาติไทย รับราชการตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอก แต่บางคนอาจไม่รู้ว่าเจ้าตัวลุยงานภาคสนามจริงด้วยตัวเอง ซึ่งล่าสุดโซเชียลต่างแห่ชื่นชมว่าปฏิบัติหน้าที่ตำรวจจริง แม้ดีกรีเป็นถึงนักกีฬาทีมชาติไทย ไม่กินเงินเดือนฟรี ๆ

และถ้าหากจะพูดถึงนักเตะฟุตซอลที่มีความสามารถเล่นได้โดดเด่นทั้งเกมรับ และเกมรุกของเมืองไทย ชื่อของ ”เจ้าเนิส” จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ดาวเตะตัวเก่งทีมชาติไทย และสโมสรพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ต้องอยู่ในระดับต้น ๆ อย่างแน่นอน

โดยในปัจจุบัน ผู้กองเนิร์ส รับราชการเป็น รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.คันนายาว โดยติดยศ ร้อยตำรวจเอก ซึ่งล่าสุด เจ้าตัวเป็นหนึ่งในทีมตำรวจอารักขา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเรามาเปิด ประวัติ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร พร้อมทำความรู้จักกันไปพร้อมกันเลย

กติกาฟุตซอล ทำความเข้าใจ 12 ข้อ การเล่นที่ผิดกติกา ถ้าทำเจอโทษแน่

ประวัติ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร นักฟุตซอลและเป็นตำรวจสืบสวน

ประ วัติ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ในวัยเด็ก ด.ช.จิรวัฒน์ สอนวิเชียร เกิดและโตที่เมืองฝนแปดแดดสี่ จังหวัดระนอง ซึ่งเจ้าตัวเหมือนเด็กคนอื่นๆ ชอบเตะบอลกับเพื่อน ๆ ก่อนเริ่มสร้างชื่อในระดับเยาวชนกับ โรงเรียนพิชัยรัตนาคาร จ.ระนอง ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ช่วยทีมบ้านเกิด จังหวัดระนอง คว้าแชมป์ ฟุตซอล สพฐ. ลีก รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี

ก่อนได้โอกาสเข้า โรงเรียนปทุมคงคา แต่ด้วยความคิดถึงบ้านเรียนได้เพียงเทอมเดียวทำให้ ”เนิส” กลับไปอยู่บ้านเกิดอีกครั้ง แต่ยังคงทำผลได้ดี คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์กีฬาเยาวชนแห่งชาติทีมแรก ทั้งระดับภาคใต้ (2548) และระดับประเทศ (2549) แชมป์กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย (2549)

ด้วยฝีเท้าที่เก่งเกินวัย สุดท้ายได้เริ่มเส้นทางลูกหนังอาชีพนักฟุตซอลกับ สโมสร แคท เทเลคอม เมื่อปี 2008 ก่อนขยับย้ายมาร่วมทัพทีมยักษ์ใหญ่ ชลบุรี บลูเวฟ พร้อมความแชมป์ลีกกับทีมได้ทันที แต่ด้วยอายุยังน้อย และในทีมมีแข้งทีมชาติไทย ล้นทีม ทำให้ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ตัดสินใจย้ายออกมาเล่นกับ แบงค็อก เอฟซี ในปี 2010

เมื่อได้โอกาสลงเล่นสม่ำเสมอ เจ้าตัวทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง ปี 2011/2012 ย้ายกลับไปภาคใต้ เล่นกับ “กุ้งสายฟ้า” สุราษฎร์ธานี ช่วยทีมจบอันดับที่ 4 และ 7 ตามลำดับ สุดท้าย สุราษฎร์ธานี จำใจปล่อย จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ด้วยเหตุผลแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว

เนื่องจากในตอนนั้นการการแข่งขัน ไทยแลนด์ฟุตซอลลีก ฤดูกาลใหม่ยังไร้วี่แววจัดแข่งขัน ทำให้ ชลบุรี บลูเวฟ ที่ติดตามฟอร์มของ เจ้าเนิส อยู่ตลอดไม่รอช้าดึงตัวเข้ามาร่วมทัพเป็นหนที่สอง พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักให้กับทีมได้ทันที คว้าแชมป์ลีกเพิ่มอีก 5 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย, แชมป์สโมสรเอเชีย 2 สมัย และแชมป์สโมสรอาเซียน 1 สมัย และเป็นแกนหลักของทีมมาถึงปัจจบุัน

ส่วนในนามทีมชาติไทย เจ้าตัวเริ่มจากติดทีมชาติไทย ชุดเล็ก ในยุคของ สุพล เสนาเพ็ง กุนซือทีมโต๊ะเล็กทีมชาติไทย ในชุดรวมดาวรุ่ง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, กฤษดา วงษ์แก้ว, ณัฐวุฒิ หมัดยะลาย, วิวัฒน์ ไทยเจริญ และอีกมากมาย พร้อมคว้าแชมป์อาเซียนมาครองได้สำเร็จเมื่อปี 2008

หลังจากนั้นติดทีมชาติไทย มาโดยตลอด ได้ลุยศึก “ฟุตซอลโลก” รอบสุดท้าย 2 สมัย ในปี 2012 กับ 2016

แม้จะเล่นเกมรับ และขึ้นเกมริมเส้นเป็นหลัก แต่ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร มีทีเด็ดจากการเติมเกมรุก เล่นลูกเซ็ตพีชลูกนิ่งต่างๆได้ดี เป็นนักเตะที่อาจจะไม่ได้วิ่งแบบบ้าคลั่ง แต่อ่านเกมยืนตำแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยม

ทำให้ ”เจ้าเนิส” จิรวัฒน์ สอนวิเชียร คว้ารางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์สโมสรเอเชีย มาครองถึง 2 สมัยติด ในปี 2016 (7 ประตู), 2017 (9 ประตู) ซึ่งเป็นนักเตะไทย คนแรกและคนเดียวที่ทำได้ พร้อมีชื่อติด 1 ใน 3 นักฟุตซอลยอดเยี่ยมทวีปเอเชีย ปี 2017 และ ติด 1 ใน 10 นักฟุตซอลยอดเยี่ยมโลก ปี 2017

สรุป ประวัติ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร เป็นนักเตะที่มีทักษะ จอมเทคนิคจากจังหวัดระนอง ยังเป็นนักเตะแกนหลักของทีมชาติไทย และสโมสร พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี พร้อมรับราชการตำรวจ ติดยศ ร.ต.ท.จิรวัฒน์ สอนวิเชียร เชื่อว่าหากเจ้าตัวเลิกเล่นจะกลับไปพัฒนาวงการฟุตซอลจังหวัดระนอง และภาคใต้ ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในอนาคต

ปัจจุบัน ผู้กองเนิร์ส รับราชการเป็น รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.คันนายาว โดยติดยศ ร้อยตำรวจเอก ซึ่งล่าสุด เจ้าตัวเป็นหนึ่งในทีมตำรวจอารักขา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อีกด้วย


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball