ประวัติ โดมินิค โซบอสซ์ไล

เปิด ประวัติ โดมินิค โซบอสซ์ไล เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวฮังการีซึ่งเล่นตำแหน่งกองกลางให้แก่ลิเวอร์พูล และเป็นกัปตันทีมของทีมชาติฮังการี ปัจจุบันอายุ 20 ปี ส่วนสูง 186 เซนติเมตร น้ำหนัก 74 กิโลกรัม ประจำการในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ ไลป์ซิก สังกัดอยู่กับ เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก มาก่อน เป็นดาวรุ้งที่น่าจับตามองอีกคนในยุคนี้ ด้วยการเล่นที่มีความมั่นใจ และฟอร์มที่ดี จนสโมสร ลิเวอร์พูล ดึงตัวเข้าร่วมทัพ และในวันนี้เราอยากอยากจะนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ โดมินิค โซบอสซ์ไล ไปดูกันหน่อยว่าแบล็คกราวน์ชีวิตของเขานั้นเป็นอย่างไรบ้าง

ประวัติ คิมมินแจ ภูเขายักษ์แห่งเกาหลีใต้ แข้งใหม่ป้ายแดง บาเยิร์นมิวนิค

ประวัติ โดมินิค โซบอสซ์ไล บนเส้นทางลูกหนัง

ประวัติ โดมินิค โซบอสซ์ไล ต้องเริ่มก่อนที่ในปี 2016 โซบอสซ์ไล จะออกไปเล่นฟุตบอลนอกประเทศครั้งแรกในชีวิต กับทีมเยาวชนของ ไลเฟอริง ทีมจากออสเตรีย บ้านใกล้เรือนเคียงของฮังการี ซึ่ง โซบอสซ์ไล ใช้เวลาในทีมเยาวชนเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น ก็ได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2017-18 และประเดิมฟุตบอลอาชีพครั้งแรกในวัย 17 ปี ด้วยการทำไป 10 ประตู กับ 7 แอสซิตส์ จาก 33 นัด ในลีกา 2 ของ ออสเตรีย

ด้วยฟอร์มอันเจิดจรัส ทำให้ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทีมแม่ของ ไลเฟอริง สโมสรที่ โซบอสซ์ไล สังกัดอยู่ ดันเขาขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลเดียวกัน ก่อนที่ โซบอสซ์ไล จะประเดิมสนามกับทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศในเกมแพ้ ออสเตรีย เวียนนา 0-4 ในนัดสุดท้ายของ ออสเตรียน บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2017-18 และแม้จะประเดิมได้ไม่สวยนัก แต่เขาถือเป็น 1 ในขุนพลของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ชุดคว้าแชมป์ในฤดูกาลดังกล่าว ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา โซบอสซ์ไล ก็ก้าวขึ้นมาเป็นแข้งคนสำคัญของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ได้อย่างเต็มตัว ในฐานะดาวรุ่งพรสวรรค์สูง ที่สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุก

โดยฤดูกาลที่โดดเด่นที่สุดของ โซบอสซ์ไล นั่นก็คือฤดูกาล 2019-20 ที่เจ้าตัวลงเล่นเกมลีกไป 27 นัด ยิงไป 9 ประตู และจัดไปอีก 14 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ พ่วงด้วยรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ ออสเตรียน บุนเดสลีกา และโซบอสซ์ไล ลงเล่นให้กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ต่อไปอีกครึ่งฤดูกาล ก่อนที่ในช่วงปลายปี 2020 แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมในเครือของกลุ่มทุน เร้ดบูลล์ ได้กระชากตัวของ โซบอสซ์ไล ไปโลดแล่นที่ บุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโร พร้อมส่ง โซบอสซ์ไล ขึ้นแท่นกลายเป็นผู้เล่นฮังการีที่ค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์

ประวัติ โดมินิค โซบอสซ์ไล

อย่างไรก็ตาม หลังจากเซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทีม ไลป์ซิก โซบอสซ์ไล กลับไม่ได้ลงสนามเลยในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2020-21 เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บระยะยาว และมันทำให้เขาต้องรอจนถึงเดือนสิงหาคม 2021 กว่าที่จะได้เดบิวต์กับทีมใหม่ และโซบอสซ์ไล ประเดิมสนามนัดแรกกับ ไลป์ซิก ในศึก เดเอ็ฟเบ-โพคาล เกมที่ต้องบุกไปเยือน เอสเฟา ซานด์เฮาเซ่น

โดยเขาถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 78 ก่อนที่อีก 3 นาที่ต่อมา โซบอสซ์ไล จะทำประตูแรกกับทีมใหม่ได้ทันที และมันเป็นประตูปิดท้ายให้ต้นสังกัดของเขาบุกมาชนะ 4-0

จบฤดูกาลแรกกับ ไลป์ซิก โซบอสซ์ไล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการลงสนามทุกรายการไป 45 นัด ทำได้ 10 ประตู 9 แอสซิตส์ พร้อมกับพาทีมเป็นแชมป์บอลถ้วยได้ในฤดูกาล 2021-22 เรียกได้ว่าค่าตัว 20 ล้านยูโรที่ ไลป์ซิก เสียไป นั้นคุ้มทุกบาททุกสตางค์ และการรอคอยให้เขาหายเจ็บ ก็คุ้มค่าทุกวินาที

ฤดูกาลถัดมา โซบอสซ์ไล ยังคงทำผลงานได้ดีอยู่เหมือนเดิม เป็นหัวใจในเกมรุกของ ไลป์ซิก ในทุก ๆ นัดที่ลงสนาม และยังสามารถพาทีมป้องกันแชมป์ เดเอ็ฟเบ-โพคาล ได้อีก 1 สมัย โดย โซบอสซ์ไล เป็นคนซัดประตูสุดท้ายให้กับทีมในนัดชิงชนะเลิศ ก่อนที่ล่าสุดเจ้าตัวจะอำลาทีม “กระทิงหนุ่ม” และย้ายมาสวมเบอร์ 8 คนใหม่ให้กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2023-24

สรุป การเปิด ประวัติ โดมินิค โซบอสซ์ไล ที่กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช้เรื่องง่ายเลย ด้วยที่ถูกจัดว่าเป็นนักเตะแนวรุกสมัยใหม่ มีพลังงานในการเล่นระดับสูงวิ่งได้ตลอดทั้งเกม พร้อมด้วยเทคนิคการเล่นแพรวพราว จุดเด่นคือการลากเลี้ยงพาบอลไปข้างหน้า ช่วยเปิดทางให้เพื่อนเติมขึ้นมาทำเกมรุก เป็นนักเตะที่มีความเข้าใจเกมค่อนข้างสูง เล่นร่วมกับเพื่อนได้ดีไม่หวงบอล รู้ว่าจังหวะไหนควรเลี้ยง จังหวะไหนควรจ่าย ทำได้ดีทั้งการจ่ายให้เพื่อนยิงประตู และสามารถจบสกอร์ได้ด้วยตัวเอง โดยมีอาวุธหนักอยู่ที่ลูกยิงไกลที่เฉียบคม


ขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball