โรคนอนไม่หลับ

 

โรคนอนไม่หลับ เป็นปัญหาที่พบได้ทุกวัย ทุกอายุ เกิดขึ้นบ่อยในวัยผู้ใหญ่หรือวัยผู้สูงอายุ หรือพบในผู้ป่วยที่มีปัญหาเจ็บป่วยทางร่างกายหรือจิตใจ  ผู้ป่วยจะนอนไม่หลับทั้งที่มีเวลาและโอกาสในการพักผ่อนที่เพียงพอ ซึ่งผลของการนอนไม่หลับทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ จิตใจเกิดความกังวลหรือมีผลต่อการคิดการตัดสินใจและการทำงานในช่วงกลางวัน เช่น ทำให้คิดงานไม่ค่อยออก ความคิดช้าลง เป็นต้น


โรคนอนไม่หลับ สามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณช่วงเวลาของการนอนไม่หลับ

  • Initial insomnia คือผู้ป่วยมีความวิตกกังวลจึงส่งผลให้นอนไม่ค่อยหลับหรือมีภาวะหลับยาก
  • Maintenance insomnia คือผู้ป่วยมีภาวะเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกาย เช่นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น จึงส่งผลให้ตื่นบ่อย นอนหลับระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงกลางคืน
  • Terminal insomnia คือผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า จะมีอาการตื่นนอนเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่น


อาการของผู้ป่วยที่มีภาวะนอนไม่หลับ

  • อ่อนเพลีย
  • ไม่สามารถมีสมาธิกับการทำงาน, ความจำเปลี่ยนแปลง
  • ความสามารถในการทำงานลดลง
  • อารมณ์หงุดหงิดกระสับกระส่าย
  • ง่วงนอนเวลากลางวัน
  • ขาดพลังในการใช้ชีวิตอ่อนเพลีย
  • การเกิดอุบัติเหตุ
  • กังวลเกี่ยวกับปัญหาการนอนที่เกิดขึ้น


ปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของภาวะนอนไม่หลับ

  • ปัญหาความเครียด
  • ภาวะความผิดปกติของการหลับเช่น ภาวะขาอยู่ไม่สุข (Restless legs syndrome)
  • ภาวะเจ็บป่วยทางกาย เช่น ปวดตามร่างกาย, กรดไหล่ย้อน, การที่ร่างกายไม่สามารถเคลื่นไหวได้ปกติ สาเหตุข้อนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ นอกจากนี้แล้วภาวการตั้งครรภ์, หมดประจำเดือน ยังมีผลต่อการนอนไม่หลับอีกด้วย
  • ภาวะทางจิตใจ เช่น ซึมเศร้า, วิตกกังวล
  • ภาวะกังวลว่าจะนอนไม่หลับ ผู้ป่วยจะกังวลกับปัญหาการนอนไม่หลับที่เกิดขึ้นซึ่งความวิตกนี้เองทำให้เกิดการตื่นตัวของร่างกายและจิตใจผลจึงทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ
  • การใช้ยาหรือสารบางอย่าง เช่น ยาแก้หวัด, ยาลดน้ำหนัก, ยาแก้หอบหืด, ยาต้านซึมเศร้า, ยากลุ่ม methylphenidate นอกจากนี้เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน, นิโคตินและแอลกอฮอล์
  • ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่นเสียงหรือแสงที่มารบกวน, อุณหภูมิห้องที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
  • ปัญหาการทำงานเป็นกะ (shift work)

 

วิธีการแก้ปัญหาการนอนไม่หลับ

  • เข้านอนเวลาเดิม ๆ ทุกวัน หรือเวลาใกล้เคียงกันทุกวันไม่ว่าจะเป็นวันทำงานหรือวันหยุด
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและไม่ควรออกกำลังกายก่อนเวลานอน 2 ชั่วโมง
  • สร้างบรรยากาศห้องนอนที่เหมาะสมกับการนอนหลับ
  • ปิดไฟขณะนอนหลับ
  • ใช้เตียงนอนสำหรับการนอนหรือกิจกรรมทางเพศเท่านั้นไม่แนะนำให้ทำกิจกรรมอื่นบนเตียงเช่น ดูโทรทัศน์, อ่านหนังสือ เป็นต้น
  • ก่อนเวลานอนซัก 1 ชั่วโมงควรผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลงสบายๆ, อ่านหนังสือ, นั่งสมาธิ เน้นเป็นกิจกรรมเบาๆ
  • ไม่ควรทำกิจกรรมที่ผลทำให้ตื่นเต้นก่อนนอน เช่น เล่นเกมส์, ดูโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ ที่มีความตื่นเต้น
  • ไม่ควรดื่มชา, กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการนอน
  • ไม่ควรทานอาหารมื้อใหญ่ อย่างน้อย 4 ชม. ก่อนการนอน
  • สามารถนอนงีบได้ในเวลากลางวันโดยงีบไม่เกิน 20 นาทีและไม่ควรงีบหลับหลังบ่ายสามโมง
  • ระหว่างนอนหลับไม่ควรดูนาฬิกาเนื่องจากจะทำให้เกิดความกังวล
  • ไม่ควรดื่มน้ำมากกว่า 1 แก้วก่อนนอนและแนะนำให้ปัสสาวะก่อนเข้านอน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อช่วยให้หลับถึงแม้ว่าจะช่วยให้หลับได้แต่ทำให้การนอนไม่มีคุณภาพ หากจะดื่มแนะนำให้ดื่มอย่างน้อย 4 ชม. ก่อนเข้านอน
  • หลีกเลี่ยงเลี่ยงแสงจ้าในตอนเย็นและพยายามรับแสงในตอนเช้า เช่นเปิดหน้าต่างรับแสงในตอนเช้า

สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

อ้างอิง : คลิกที่นี่

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball