ไก่ดำ แค่ชื่อท่านผู้อ่านก็น่าจะรู้แล้วว่าต้องเป็นไก่ที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ไก่ดำนั้นใช้ชีวิตเหมือนกับนกและมีนิสัยที่ดุร้าย ไก่ดำพันธุ์ดั้งเดิมอยู่แถบเหนือของมองโกเลียในประเทศจีน โดยพวกไก่ดำจะกินยอดอ่อนของต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่ตามภูเข้าหรือจะกินเกสรของดอกไม้ต่าง ๆ เจ้าไก่ดำนั้นจะชอบอาศัยอยู่ในถิ่นที่มีอากาศหนาวเย็น ว่ากันว่ายิ่งไก่ดำอาศัยอยู่ในอากาศที่เย็นหรือหนาวเท่าไหร่ ความหนาวเย็นนั้นจะยิ่งส่งผลให้เนื้อของไก่ดำยิ่งเป็นสีดำอีกด้วย คนจีนโบราณยังถือว่าไก่ดำเป็นอาหารชั้นฮ่องเต้ ตำรายาจีนกล่าวว่าไก่ดำนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น กระดูกของมันสามารถนำไปบดละเอียดผสมกับน้ำผึ้ง และเอามากินแก้โรคไตและถ้าอยากให้ทานไก่ดำแล้วได้ผลคนที่กินไก่ดำนั้นก็ต้องเลี่ยงอาหารที่แสลง เช่น น้ำชา หรือหัวผักกาด นั่นเอง
ไก่ดำ สุดยอดอาหารเหลา สายบำรุงกำลัง
ลักษณะของไก่ดำที่แตกต่างจากไก่บ้านทั่วไปนั่นก็คือ ช่วงขาของไก่ดำจะสั้นกว่าไก่บ้าน ตลอดทั้งตัวของไก่ดำจะเป็นสีดำตามชื่อไก่ดำ ตั้งแต่จะงอยปากถึงปลายเล็บ เกล็ดขา หรือผิวหนังบริเวณทั่วทั้งตัว กระทั่งอวัยวะภายในล้วนดำสนิท ลักษณะดังกล่าวเกิดจากสารที่เรียกว่า ไมอานีน ซึ่งเจ้าไมอานีนนี้จะเป็นสารสีดำที่มีประโยชน์ เนื้อของไก่ดำมีโปรตีนสำคัญที่จำเป็นต่อรางกายของคนเรานั่นคือ แอนโดร และอมิโนแอซิด อีกทั้งเนื้อของไก่ดำมีปริมาณไขมันและคอเรสตอรอลที่ต่ำจึงให้คุณค่าทางอาหารแก่ร่างกายโดยสมบูรณ์
ไก่ดำที่เหมาะจะนำมารับประทานควรเลือกไก่ดำรุ่น ๆ หนักประมาณ 1.1 -1.2 กิโลกรัม เนื้อจะนุ่มและมีความอร่อย เดี๋ยวนี้มีการสกัดเอาโปรตีนบางส่วนจากไก่ดำมาผสมตัวยาออกจำหน่ายในรูปของอาหารเสริมบำรุงกำลังอีกด้วย การเลี้ยงไก่ดำในประเทศไทย เริ่มเมื่อประมาณปี พ ศ 2522 และขยายออกไปทั่วทุกภาค ไก่ดำทำรายได้ให้ผู้เลี้ยงสูงกว่าไก่ธรรมดาปัจจุบันจังหวัดสตูลมีการส่งเสริมเกษตรกรให้เลี้ยงไก่ดำอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ถึงกับสร้างคำขวัญประจำจังหวัดขึ้นใหม่ว่า“ เกาะตะรุเตา ไก่ดำ จำปาดะ คนใจพระ งานเลิศ เชิดสตูล ” อย่างไรก็ตาม แม้ไก่ดำจะมีสารอาหารช่วยบำรุงกำลัง แต่ถึงอย่างไรผู้อ่านหลายท่านก็ไม่ควรหวังพึ่งพาแต่อาหารเสริมควรทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอและอาหารเสริมจะสามารถส่งผลได้เต็มที่นั่นเอง
เป็นอย่างไรบ้างเมื่อได้อ่านที่มาของไก่ดำและคุณประโยชน์ต่าง ๆ หลายท่านคงอยากจะลิ้มลองไก่ดำดูสักครั้งจริงไหม
สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่
อ้างอิง : คลิกที่นี่
