ประวัติ มอยเซส ไกเซโด้

มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางชาวเอกวาร์ดอร์เป็นเป้าหมายเสริมทัพของเชลซีในฤดูกาลนี้ โดยเชลซี กำลังลังเลเรื่องการเดินหน้าคว้าตัว มอยเซส ไกเซโด้ หลังจากที่ถูกไบรท์ตันโก่งค่าตัวขึ้นไปสูงถึง 100 ล้านปอนด์ โดยมิดฟิลด์วัย 21 ปี เป็นเป้าหมายของทัพสิงโตน้ำเงินคราม หลังจากที่พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ผลงานโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีกตลอดช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา แต่มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางทีม ไบรท์ตัน เริ่มหมดความอดทน และ ส่งสัญญาณให้ต้นสังกัดเปิดไฟเขียวให้ย้ายทีมได้แล้วหลัง นกนางนวล เล่นบทโหดตั้งค่าตัวไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,477 ล้านบาท) และเรามาดู ประวัติ มอยเซส ไกเซโด้ กันว่าจะน่าสนใจแค่ไหนกัน ทำไมเชลซีถึงต้องการตัวมากขนาดนี้

ประวัติ โดมินิค โซบอสซ์ไล ทำความรู้จักจอมทัพหมายเลข 8 คนใหม่ หงส์แดง

ประวัติ มอยเซส ไกเซโด้ เส้นทางฟุตบอล

ไกเซโด้ ต้องเริ่มจากโค้ชคนแรกของ ไกเซโด้ ในทีม อินดิเพนเดียนเต้ กล่าวว่า “ผมรักเขา เพราะเขาเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ เขาเคยร้องไห้กับผม 2-3 ครั้ง ตอนแรกๆ ตอนที่ผมอาจจะดุเขามากไปในตอนซ้อม เขาก็ร้องไห้เหมือนเด็กเลย แต่ผมหันหลังกลับทำเป็นไม่เห็นเขา”

“วันหนึ่งในช่วงที่เขาได้รับบาดเจ็บ เขาขออนุญาตกลับบ้าน และไปฉลองวันเกิด ผมปฏิเสธ และพูดว่า มอยเซส คุณบาดเจ็บ คุณต้องพักฟื้น และต้องกลับมาให้เร็วที่สุด นักเตะอาชีพไม่มีวันหยุด คุณต้องเข้าใจว่าตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ในอคาเดมี่อีกแล้ว”

“เมื่อคุณย้ายไปสโมสรใหญ่ คุณไม่สามารถขอสโมสรของคุณให้หยุดเพื่อฉลองวันเกิดกับครอบครัวได้เพราะพวกเขาอาจจะไม่ให้คุณอยู่ในทีมอีกเลย หลังจากนั้น เขาก็ร้องไห้เหมือนในโรงยิม และออกไปขี่จักรยาน” และท่าทีที่มั่นคงของ รามิเรซ ในตอนนั้นตั้งใจทำให้เป็นบทเรียนแก่ ไกเซโด้ และถึงแม้ตอนนั้นเขาจะเป็นแค่ดาวรุ่ง แต่ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีม อินดิเพนเดียนเต้ ยู20 คว้าแชมป์ โคปาลิเบอร์ตาดอเรส ยู20 ที่ประเทศปารากวัย ในปี 2020 ได้สำเร็จ

ประวัติ มอยเซส ไกเซโด้

รามิเรส เล่าต่อว่า “เขามีความสำคัญมากสำหรับเราในทีมชุดใหญ่ แต่เขาก็เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมยู-20 ด้วย ดังนั้น เป็นเวลา 1 สัปดาห์หรือ 10 วัน เขาเล่นกับทีมยู-20 จากนั้น ก็บินกลับไปเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของเราในลีกเอกวาดอร์ จากนั้น เขาก็ก็กลับไปในศึก ลิเบอร์ตาดอเรส ยู20 มันบ้ามาก” หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ อินดิเพนเดียนเต้

โอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ ไกเซโด้ ก็มาถึง หลังจาก ไบรท์ตัน เซ็นสัญญาคว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2021 โดยในช่วงแรกเขาต้อวปรับตัวเล็กน้อย และย้ายไปเก็บประสบการณ์กับ เบียร์ช็อต วีเอ ในเบลเยียม ก่อนจะก้าวมายึดตัวหลักในซีซันที่ผ่านมา

เกรแฮม พอตเตอร์ อดีตโค้ช ไบรท์ตัน ใช้งาน ไกเซโด้ ในตำแหน่งกองกลางหมายเลข 8 ฝั่งซ้าย แต่หลังจาก โรแบร์โต้ เดอ เซอร์บี เทรนเนอร์ชาวอิตาลี เข้ามาคุมทีม นั้น ดาวเตะเอกวาดอร์ ก็ถูกขยับมายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง และบางครั้งก็ลงไปเล่นเป็นแบ็คขวาด้วย และไม่ว่าจะถูกส่งลงสนามในตำแหน่งใด ไกเซโด้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

โดยปีล่าสุด เขาลงเล่นเป็นตัวจริง 34 เกม จาก 38 เกมใน พรีเมียร์ลีก และมีบทบาทสำคัญในฤดูกาลที่พา “นกนางนวล” ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

รามิเรส อธิบายทิ้งท้ายว่า “ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นราคาตลาดนักเตะที่บอกคุณได้ว่า คุณเก่งแค่ไหน ดังนั้น เมื่อสโมสรเสนอตั้งค่าตัวออกไป นั่นเป็นเพราะระดับของคุณ ซึ่ง มอยเซส ก็สมควรก็อยู่ในระดับนั้นแล้ว นี่คือความจริง”

สรุป ประวัติ มอยเซส ไกเซโด้ เป็นที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นมิดฟิลด์วัย 21 ปี เป็นเป้าหมายของทัพสิงโตน้ำเงินคราม หลังจากที่พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ผลงานโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีกตลอดช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา

โดยไกเซโด้ มิดฟิลด์ทีมชาติ เอกวาดอร์ ได้รับอนุญาตให้ย้ายสังกัดในซัมเมอร์นี้ได้เช่นเดียวกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ลงเอยกับ ลิเวอร์พูล เรียบร้อยแล้วเนื่องจากทั้งสองโชว์ฟอร์มเด็ดพาทีม นกนางนวล คว้าอันดับลงเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปในซีซั่นหน้าได้


ขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball